ในปัจจุบันเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) หรือ การจดจำอักขระด้วยแสง ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากในเอกสาร ให้ออกมาเป็นไฟล์ดิจิทัล ได้เข้ามามีบทบาทต่อการทำงาน ทั้งในภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลดขั้นตอนความยุ่งยากในการดำเนินงาน หรือการช่วยจัดการเอกสาร ลดการใช้กระดาษในการทำงาน และยังเพิ่มความแม่นยำถูกต้องมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายองค์กรได้เลือกเทคโนโลยี OCR เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้เทคโนโลยี OCR ยังมีการใช้ Machine Learning มาพัฒนาช่วยให้ OCR สามารถอ่านอักขระที่มีความซับซ้อน และสามารถจดจำ และจำแนกข้อมูล ให้อยู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง
ในอนาคตเทคโนโลยี OCR ยังมีการพัฒนา และปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยี AI รูปแบบอื่นๆ ซึ่ง OCR จะสำคัญอย่างไรบ้าง ต่อการทำงาน และอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาไขคำตอบ
AI (ปัญญาประดิษฐ์) คือ เทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์และอัลกอริทึมในการจำลองและจำแนกพฤติกรรมที่คล้ายกับความสามารถในการคิดเชิงมนุษย์ มันสามารถเรียนรู้และปรับปรุงผลลัพธ์ได้จากข้อมูลที่รับเข้ามา ซึ่งมีการประยุกต์ใช้กว้างขวางในหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์, ธุรกิจ, การพัฒนาซอฟต์แวร์, และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ
3 ความสำคัญของเทคโนโลยี OCR ในอนาคต
1. สามารถอ่าน และจดจำข้อมูลที่มีความลึกลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ความสามารถของเทคโนโลยี OCR สามารถอ่านข้อมูลบนเอกสาร และแปลงเป็นไฟล์ดิจิทัล พร้อมด้วยสามารถจำแนกข้อมูลให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมถึง OCR ภาษาไทย ที่สามารถอ่านอักขระที่ซับซ้อนอย่างภาษาไทยได้ ในอนาคตเทคโนโลยี OCR อาจมีความสามารถที่จะจดจำข้อความที่สแกนก่อน จากนั้นจะทำหน้าที่อ่านความหมายของข้อมูลที่มีเชิงลึกมากขึ้น ทำให้ OCR สามารถแยกแยะ และวิเคราะห์ความหมายของข้อมูล และอ่านข้อมูลบนเอกสารที่มีโครงสร้างซับซ้อนกว่าเดิม เช่น ข้อมูลของแผนกบัญชีที่มีตัวเลข และโครงสร้างมากมาย เป็นต้น
2. OCR สามารถผสานการทำงานรวมกับซอฟต์แวร์และระบบอื่นๆ
ในอนาคตเทคโนโลยี OCR อาจสามารถยกระดับการทำงานให้เหนือชั้นขึ้นด้วยการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ หรือระบบอื่นๆ เช่น ระบบประมวลผลด้วยหุ่นยนต์ หรือ RPA (Robotic Process Automation) เพื่อเพิ่มความชาญฉลาดให้การทำงานของระบบ OCR ให้สามารถดำเนินการประมวลผลข้อมูล รวมถึงป้อนข้อมูล วิเคราะห์ เรียงลำดับ ไปจนถึงการสร้างข้อมูลเชิงลึกโดยอัตโนมัติ ทำให้อนาคตผู้ใช้งานอาจไม่จำเป็นต้องใช้งาน OCR ผ่านหน้าจอมือถือ หรือคอมพิวเตอร์เสมอไป แต่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่สะดวก ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
RPA (Robotic Process Automation) คือ ระบบประมวลผลด้วยหุ่นยนต์ โดยจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้หุ่นยนต์เลียนแบบการทำงานของมนุษย์ เพื่อให้สามารถทำงานในรูปแบบที่ซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดโอกาสความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และพร้อมทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3 .ยกระดับการบริการที่มีความปลอดภัยต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ลูกค้าคือส่วนสำคัญที่ทุกบริษัทต่างให้ความใส่ใจ ซึ่งในปัจจุบัน OCR ได้เข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการลูกค้าให้หลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจการเงิน ธุรกิจการดูแลสุขภาพ ด้วยการเพิ่มความเร็ว และความถูกต้องในการดำเนินงาน ในอนาคตเทคโนโลยี OCR จะเข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการลูกค้าของธุรกิจต่างๆ ให้มีคุณภาพมากขึ้น นอกจากความรวดเร็ว ถูกต้องแล้ว OCR ยังช่วยทำหน้าที่เพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ OCR ยังใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อช่วยป้องกันโอกาสที่จะป้องกันผู้ไม่หวังดีมาทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน การปลอมแปลงเอกสาร ที่นำมาสู่การดำเนินคดีความ ที่ทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้เทคโนโลยี OCR เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อการทำธุรกิจในปัจจุบัน ด้วยการเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และความถูกต้องในการดำเนินงาน ในอนาคตเชื่อว่าเทคโนโลยี OCR จะเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานส่วนต่างๆ มากยิ่งขึ้น ด้วยการยกระดับให้สามารถทำงานในระบบที่มีความซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม รวมถึงสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่นๆ เพื่อนำมาสู่การให้บริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น