หน้าที่ของแผนกทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources :HR) นอกจากเรื่องการจัดหาบุคลากรที่เหมาะสม มาเข้าทำงาน และบริหารทรัพยากรณ์บุคคลในตำแหน่งต่าง ๆของบริษัทให้มีคุณภาพแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของหน้าที่ HR คือการ ตรวจประวัติอาชญากรรม และประวัติการทำงาน ของคนที่ต้องการรับเข้ามามาทำงานในบริษัท เนื่องจากขั้นตอนนี้ เป็นการพิสูจน์และยืนยันว่าคนที่เราจะเข้ามาร่วมงานนั้น เป็นคนที่สามารถเชื่อใจได้ รวมถึงจะไม่ทำให้องค์กรเสียหายไม่ว่าจะในด้านชื่อเสียง หรือความแปลอดภัยใด ๆ ก็ตามในอนาคต
การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของบุคคลก่อนที่จะรับเข้ามาร่วมทำงาน เป็นสิ่งที่จะการันตีได้ว่าคนที่เราเลือกมาทำงานนั้น จะไม่สร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียง หรือความเสียหายต่อองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ผู้คนต่างมีความเป็นปัจเจก (Individualism) ค่อนข้างสูง ทำให้เบื้องหลังของบุคคลมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคิด และนิสัย นอกจากนี้การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนเข้ารับคนเข้าทำงาน ยังมีประโยชน์ และความสำคัญต่อองค์กร ดังนี้
ประโยชน์ และ ความสำคัญของการ ตรวจประวัติอาชญากรรม ก่อนเข้ารับคนเข้าทำงาน
1.เพื่อความปลอดภัยขององค์กร และพนักงาน
การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ของ HR ก่อนที่จะรับพนักงาน เป็นการปกป้ององค์กร และพนักงานภายในองค์กรขั้นพื้นฐาน เนื่องจากพนักงานแต่ละคนเปรียบเสมือนคนแปลกหน้า เพราะต่างคนต่างมีที่มาที่ต่างกันออกไป โดยการตรวจประวัติอาชญากรรมจะช่วยให้องค์กรสามารถรับรู้ว่าบุคคลจะมาร่วมงานนั้น สามารถทำงานได้ตรงตามความต้องการได้หรือไม่ และมีพื้นหลังที่ไม่เป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมงาน หรือองค์กร เช่น การทำร้ายร่างกาย หรือลักขโมยทรัพย์สินใด ๆ ขององค์กร จนก่อความเสียหายนั่นเอง
2.เพื่อรักษาชื่อเสียง และมาตรฐานของบริษัท
นอกจากการรักษาความปลอดภัยขององค์กร และพนักงานภายในองค์กรแล้ว การตรวจประวัติอาขญากรรม ยังช่วยทำหน้าที่ในการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรด้วย เพราะหากทาง HR เลือกพนักงานที่มีประวัติอาชญากรรม หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้องค์กรเสียชื่อเสียงจากการกระทำของบุคลดังกล่าวได้ การเลือกบุคคลที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม จึงเป็นเสมือนขั้นตอนที่ช่วยคัดกรองบุคคลที่เชื่อใจได้เป็นอย่างดี
3.ตรวจประวัติอาชญากรรม เพื่อเป็นฐานข้อมูลของแผนกทรัพยากรมนุษย์
การ ตรวจประวัติอาชญากรรม ของพนักงานนั้น นอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรแล้ว ก็ยังมีส่วนในการช่วยให้พนักงาน HR สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้นด้วยการจัดเก็บฐานข้อมูล หลังจากที่มีการตรวจประวัติอาชญากรรม เพื่อทำฐานข้อมูลการพนักงานที่มีประวัติการกระทำผิดกรณีต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยง และลดระยะเวลาการทำงานให้สั้นลง
กรณีตัวอย่างคดีความและอาชญกรรมที่เกิดขึ้น
พนักงานขโมยเงินองค์กร
ปัญหาเรื่องการลักขโมย เป็นเรื่องที่พบได้แทบในทุกสถานที่ สำหรับในสถานที่ทำงานการขโมยส่วนใหญ่มักเกิดจากการก่อเหตุโดยพนักงานภายในองค์กรมากกว่าบุคคลภายนอก เนื่องจากพนักงานภายในคือบุคคลที่รู้ข้อมูล หรือความลับภายในองค์กร ทำให้บุคคลเหล่านี้ก็ทำการใช้จุดบอดขององค์กรในการขโมยของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เงิน ทรัพย์สิน และข้อมูลที่เป็นความลับ
สำหรับกรณีตัวอย่างการลักขโมยทรัพย์สินขององค์กรนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อผู้จัดการแผนกบัญชีวัย 30 ปี ได้ทำการขโมยเงินของบริษัทมากกว่า 57 ครั้งรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 2.8 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งยังมีการโอนเงินของบริษัทไปให้ภรรยาเป็นมูลค่า 21,000 ดอลลาร์ สำหรับสาเหตุการก่อเหตุเนื่องจากต้องการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Crytocurrency ท้ายที่สุดพนักงานรายนี้ก็ได้ถูกลงโทษด้วยการถูกตัดสินจำคุก 5 ปี
ข่าวอ้างอิง : siamblockchain
การทำร้ายร่างกาย
การทำร้ายร่างกาย เป็นปัญหาที่อาจไม่ได้พบเจอได้บ่อย ๆ แต่เมื่อเกิดเหตุในแต่ละครั้งมักทำให้ชื่อเสียงขององค์กรเกิดความเสียหายไม่น้อย ส่วนใหญ่ความรุนแรงมักเกิดจากการที่พนักงานขององค์กร ได้ไปลงมือใช้ความรุนแรงต่อบุคคลาภายนอก ซึ่งในยุคปัจจุบันที่ผู้คนมีกล้องมือถือที่สามารถบันทึกภาพการใช้ความรุนแรงไปเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต จนสร้างความเสียหายให้องค์กรได้มากขึ้นกว่าความเสียหายจากการกระทำความผิดในรูปแบบอื่น ๆ
ในกรณีตัวอย่างนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุคือพนักงานบริษัทส่งของ ที่ได้เมาแล้วขับ จนทำให้รถไปชนเข้ากับเหล็กกั้นถนน จากนั้นไม่นานได้มีนักข่าวบริเวณนั้นได้พยายามเก็บภาพที่เกิดเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุได้ทำการลงมือทำร้ายร่างกายนักข่าว รวมถึงด่ากราดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาจับกุมตัว
ข่าวอ้างอิง : thaich3
การล่วงละเมิดทางเพศ
ปัญหาการล่วงละเมิด เป็นอีกปัญหาที่พบเจอบ่อย ๆ ในยุคปัจจุบัน และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อบรรยากาศการทำงานที่ไม่ปลอดภัย และความสัมพันธ์ของคนในองค์กรไม่มีความเป็นทีมเวิร์ค ส่วนใหญ่การก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน มักเกิดจากพนักงานที่เป็นผู้ชาย ที่กระทำต่อพนักงานหญิง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้วยกันเอง หรือพนักงานที่มีตำแหน่งสูงกว่า กระทำต่อพนักงานใต้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกองค์กรควรให้ความใส่ใจในการแก้ปัญหา
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพนักงานออฟฟิศสาววัย 24 ปีรายหนึ่ง ได้ถูกเพื่อนร่วมงานชายวัย 30 ปี ทำการออกอุบายแสร้งชักชวนไปเที่ยวผับ ก่อนจะล่อลวงให้หญิงสาวไปค้างที่บ้านของตน เพื่อทำการล่วงละเมิดทางเพศ แต่หญิงสาวก็ สามารถเอาชีวิตรอดมาจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้
ข่าวอ้างอิง : banmuang
การใช้ยาเสพติด
ปัญหาเรื่องการใช้ยาเสพติด เป็นอีกการก่ออาชญากรรมที่ทำให้องค์กรเสียชื่อเสียพอ ๆ กับการทำร้ายร่างกาย ในหลายกรณีที่พบคือพนักงานที่ทำการเสพยา ได้ไปกระทำความเสียหายแก่ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่น รวมทั้งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอีกด้วย
กรณีการใช้ยาเสพติดของพนักงาน อาจไม่ได้พบเห็นได้โดยตรงภายในออฟฟิศ แต่มักเห็นตามสถานที่สาธารณะทั่วไป ดังเช่นในกรณีพนักงานโชเฟอร์ขับรถสาธารณะ ที่มีอาการเมายาบ้าระหว่างที่ขับรถ โดยโชเฟอร์ผู้นี้ได้ทำการต่อว่ารถคันด้านหน้า เพื่อให้ตนนั้นขับรถฝ่าไฟแดง ก่อนที่จะมีอาสาสมัครกู้ภัยที่ขับรถมาบริเวณดังกล่าว และได้ถ่ายคลิป พร้อมทั้งต่อเถียงกับโชเฟอร์ จากนั้นก็ได้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเคลียร์สถานการณ์ ท้ายที่สุดโชเฟอร์ก็ถูกจำคุก และโดนยึดใบอนุญาตขับขี่ พร้อมทั้งยังถูกที่ทำงานไล่ออก
ข่าวอ้างอิง : new.ch7
——————————————————————————————–