หน้าที่สำคัญของฝ่ายบุคคล นอกจากการคัดเลือกบุคลากรมาร่วมงานกับบริษัทแล้ว ยังต้องรู้จักวิธีการพัฒนาบุคลากรเพื่อส่งเสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการที่องค์กรจะขับเคลื่อนไปได้นั้นไม่เพียงแต่จะใช้ความสามารถของผู้บริหาร แต่ยังต้องการความร่วมมือจากบุคลากร ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่ก็มีความรู้ความสามารถในหน้าที่ของตนเองดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายบุคคลที่จะต้องสรรหาวิธีการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้ลูกจ้างสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยที่ไม่เกิดความเครียด หรือความกดดันมากจนเกินไป
แนวทางวิธีการพัฒนาบุคลากร สำหรับองค์กรในปี 2024
หากพูดถึงการพัฒนาบุคลากรแล้วหลายคนอาจจะนึกถึงการจัดอบรมเป็นอย่างแรก แต่จริง ๆ แล้ว การพัฒนาทักษะการเรียนรู้นั้นมักจะเกิดจากการส่งเสริมบุคลากรให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี แอพแมนจึงได้มีการคัดเลือก 7 วิธีการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้ HR สามารถนำไปปรับใช้ได้ดังต่อไปนี้
1. ส่งเสริมคอร์สเรียนออนไลน์เพื่อให้พนักงานได้ Upskill และ Reskill
ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์ใหม่ ๆ จึงถูกนำมาปรับใช้กับทำงานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นพนักงานจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตนเองไม่เคยมี เพื่อเป็นการ Upskill ในการทำงาน รวมถึงจำเป็นต้องมีการ Reskill หรือเพิ่มพูนทักษะที่มีอยู่แล้วให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนคอร์สเรียนจากบริษัทก็จะช่วยให้พนักงานเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และนำมาพัฒนาต่อยอดให้กับองค์กรได้
2. จัดเวิร์กช็อป ส่งเสริมการออกไปสัมมนาดูงาน
ทุกวันนี้มีการจัดงานสัมมนาหรือเวิร์กช็อปทักษะใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อยู่เสมอ ซึ่งหากองค์กรส่งพนักงานเข้าไปมีส่วนร่วมโดยการออกค่าใช้จ่ายให้ พนักงานก็จะได้มีการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ ได้ไอเดียที่สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงาน รวมถึงได้คอนเนคชันที่อาจก่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรในอนาคตอีกด้วย
3. สนับสนุนการเรียนรู้ด้วยสวัสดิการค่าหนังสือ สมาชิกเว็บไซต์หรือวารสาร
มีงานวิจัยกล่าวไว้ว่าการอ่านจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากองค์กรมีการสนับสนุนให้พนักงานเข้าถึงการอ่านมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ อีบุ๊ก หรือวารสารวิชาการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ทักษะเหล่านี้จะสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้
4. จัดพื้นที่ให้พนักงานได้ทำกิจกรรมคลายเครียดนอกเหนือการทำงาน
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงในการทำงาน หากสะสมไว้มาก ๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตจนเกินการป่วย คิดงานไม่ออก รู้สึกกดดันจนส่งผลกระทบกับการทำงาน ดังนั้นบริษัทจึงควรมีพื้นที่ให้พนักงานได้ทำกิจกรรมคลายเครียด เช่น การเล่นบอร์ดเกม ตีปิงปอง หรือมีบาร์เครื่องดื่มให้พนักงานได้มานั่งพูดคุยผ่อนคลาย เพราะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นก็จะช่วยให้ได้ไอเดียใหม่ ๆ กลับไปทำงานอีกด้วย
5. สนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้กับพนักงาน
เมื่อคนเรามีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ก็จะมีความโปรดักทีฟในการทำงานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้กับพนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากพนักงานเกิดความเครียดจากการทำงาน หรือจากบรรยากาศในการทำงาน ซึ่งอาจเกิดได้หลายปัจจัย เช่น ถูกเพื่อนร่วมงานคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศ หรือปัญหาการเจ็บป่วยที่อาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลควรเข้าไปพูดคุยและหาทางแก้ไขร่วมกัน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลควรพึงระวังปัญหาอาชญากรรมที่อาจเกิดในที่ทำงาน เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในองค์กร สร้างความเดือดร้อนให้กับบริษัทหรือพนักงานคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน
จบไปแล้วสำหรับรูปแบบวิธีการพัฒนาบุคลากรที่แอพแมนนำมาฝากในวันนี้ ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมาไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับขององค์กรด้วยการสร้างพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ แต่ยังช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ ซึ่งจะเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับองค์กรได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย