ในยุคที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีและ AI ได้เข้ามามีบทบาทต่อการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของแผนก HR ไม่น้อย เพราะนอกจากการคัดเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถที่เหมาะสมต่อตำแหน่งงานแล้ว การพัฒนาบุคลากรในองค์กรก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ช่วยให้ผลงานที่ออกมามีคุณภาพ และพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้ ในบทความนี้เราได้รวม 5 เทคนิคที่ HR ต้องรู้ในการบริหารคนในปี 2024 จะมีอะไรบ้างสามารถไปติดตามอ่านได้เลย
1.มีการทำงานที่ผสมผสานและยืดหยุ่นมากขึ้น
นับตั้งแต่ยุคโควิด-19 ระบบการทำงานแบบ Work From Home ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการทำงานในออฟฟิศเท่านั้น แม้ในปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเริ่มซาลงและการทำงานเริ่มกลับเข้าสู่ระบบออฟฟิศเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ก็ได้เกิดการทำงานที่เรียกว่า Hybrid Work Models and Flexibility ที่เป็นการทำงานในรูปแบบผสมผสานและเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน
จากผลสำรวจของ Deloitte พบว่า 63% ของพนักงานทั่วโลกต้องการทำงานในรูปแบบ Hybrid นอกจากนี้การศึกษาของ AT&T ได้คาดว่าในปี 2567 นี้การทำงานแบบ Hybrid มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 81%
ซึ่งรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid นั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานโดยการให้พนักงานสามารถเลือกรูปแบบการทำงานของตัวเองมากขึ้น สามารถเลือกทำงานที่ออฟฟิศ หรือ Work From Anywhere ได้ รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นระยะเวลาการทำงาน ทำให้พนักงานสามารถปรับสมดุลในชีวิตและรู้สึกอยากทำงานให้ออกมาดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การทำงานแบบ Hybrid ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กรไม่ว่าจะ พื้นที่ของสำนักงาน ค่าสาธารณูปโภค และค่าโสหุ้ยต่าง ๆ ทำให้องค์กรสามารถมีงบประมาณส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นมากยิ่งขึ้น
2.ใช้ Generative AI ยกระดับทรัพยากรบุคคล
อย่างที่หลายคนพอทราบกันดีว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และมันได้ส่งผลกระทบถึงแผนก HR ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในต่างประเทศที่แผนก HR ได้เริ่มมีการใช้ Generative AI มาปรับใช้ในการทำงาน เริ่มตั้งแต่มีการใช้ AI ในการคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมต่อองค์มาทำการสัมภาษณ์ รวมถึงการใช้ AI ในการสร้างแบบทดสอบให้เหมาะสมต่อบุคคลนั้น ๆ
นอกจากนี้การ Generative AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานของแผนก HR ด้วยการทำดัชนีการทำงานของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นชั่วโมงทำงาน การประชุม และผลงานต่าง ๆ เพื่อประเมินความสามารถของพนักงานแต่ละคนว่ามีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหนบ้าง ช่วยลดความยุ่งยากในการรวบรวมข้อมูลพนักงานของแผนก HR ทั้งยังช่วยให้สามารถวิเคราะห์และจ่ายเงินโบนัส หรือปรับเงินเดือนพนักงานได้ถูกต้อง เที่ยงธรรมมากยิ่งขึ้น
3.ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพจิต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันการบริหารงานแผนก HR ให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพจิตของพนักงาน (Mental Health) ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความกดดันต่าง ๆ ที่เกิดจากภายในองค์กร จนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่น้อยลง และอาจทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งจากผลสำรวจของ WHO ได้พบว่าทุก 1 ใน 4 คนจากพนักงานทั่วโลกมีปัญหาด้านสุขภาพจิตที่ส่งผลต่อการทำงาน
ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรในองค์กร เจ้าหน้าที่แผนก HR ควรต้องพัฒนากลยุทธ์ในการดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน โดยอาจเป็นการสร้างกิจกรรมให้พนักงานได้มีส่วนร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน หรือพื้นที่ให้พนักงานได้ระบายปัญหา ซึ่งการใส่ใจสุขภาพจิตของพนักงานนอกจากจะช่วยลดความเครียด ความ Toxic ในการทำงานแล้ว ยังช่วยให้ปัญหาความไม่เข้าใจกันในองค์กรลดน้อยลง รวมทั้งช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานเป็นทีมได้ดีมากยิ่งขึ้น
4.มีความหลากหลายและความเท่าเทียม
ในปัจจุบันความหลากหลายเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรและสังคมโดยรวมให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องของ เพศ ศาสนา สิ่งที่เจ้าหน้าที่ HR ควรทำเพื่อบริหารคนคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับความหลากหลาย มีพื้นที่ให้พนักงานทุกเพศ ทุกวัยได้แสดงความเป็นตัวตนโดยไม่เขินอาย มีการรับพนักงานโดยไม่ปิดกั้นเรื่องของเพศสภาพ และเปิดกว้างเรื่องศาสนาให้ทุกคนมีความเท่าเทียม ซึ่งจะสร้างองค์กรที่เปิดรับความหลากหลายนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ และดึงดูดคนเก่งมีความสามารถมาร่วมงานมากยิ่งขึ้น
5.ส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะใหม่ ๆ
ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันทั้งระหว่างองค์กรและพนักงานด้วยกันเอง สิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่แผนก HR ควรให้ความสำคัญคือการสนับสนุนการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ภายในองค์กร หรือความรู้นอกเวลา เช่น คอร์สเรียนเกี่ยวกับการใช้ AI หรือคอร์สพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ เป็นต้น จะเพิ่มทักษะในการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน ซึ่งหากพนักงานในองค์กรมีความรู้ความสามารถในหลาย ๆ ด้าน นอกจากจะสามารถนำมาพัฒนาการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ยังช่วยยกระดับองค์กรให้เต็มไปด้วยคนเก่งคนมีความสามารถที่พร้อมพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ที่ดึงดูดผู้คนให้อยากมาร่วมงานด้วย
สรุป
จะเห็นได้ว่าท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยการแข่งขัน การพัฒนาบุคลากรโดยแผนก HR คือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะทั้ง 5 เทคนิคที่เรารวมมาให้นั้นเป็นหนทางที่แผนก HR ควรนำไปปรับใช้อย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นการสร้างองค์กรให้เต็มไปด้วยคนเก่ง คนมีความสามารถ ลดปัญหาและความ Toxic ในองค์กร รวมทั้งยังช่วยพาองค์กรไปสู่ผลสำเร็จอย่างที่หวังไว้
ข้อมูลอ้างอิง:
www.onedee.ai/th/hr-trend-2024/
www.selecthub.com/hris/hr-trends/
www.empeo.com/blog/tips/hr-trends-2024/