การรับสมัครพนักงานในแต่ละครั้ง นอกจากการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าหน้าที่แผนกทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources) หรือ HR ต้องตรวจสอบก่อนรับเข้าทำงานคือ “การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม” เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ทำหน้าที่ในการเช็กประวัติการทำผิดกฎหมายหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบุคคลนั้น ๆ เช่น คนที่เคยมีประวัติทำร้ายร่างกาย ลักขโมย หรือใช้ยาเสพติด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้องค์กรเกิดความเสียหายทั้งชื่อเสียหรือทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่แผนก HR ให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพื่อเป็นการให้เห็นความสำคัญของการตรวจประวัติพนักงาน ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 5 ประโยชน์ของการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ว่าเข้ามามีบทบาทช่วยองค์กรและเจ้าหน้าที่แผนก HR อย่างไรบ้าง 

1. เพิ่มความปลอดภัยให้กับองค์กร

ความปลอดภัยขององค์กรคือสิ่งแรก ๆ ที่องค์กรควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะต่อตัวพนักงานหรือต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เพราะที่ทำงานที่สถานที่ที่รวมคนแปลกหน้าหมู่มากให้เข้ามาทำงาน ติดต่อประสานงาน ดังนั้นหากองค์กรเลือกพนักงานที่มีประวัติอาชญากรรม อาจสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยต่อองค์กร เช่น เกิดการทำร้ายร่างกายผู้ร่วมงาน หรือทุจริตต่อตัวลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทำให้การทำงานเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ รวมถึงอาจส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กร ทำให้คนไม่กล้าเข้ามาใช้บริการ 

2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร

การที่บริษัทมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนเริ่มงานทุกครั้ง ด้วยวิธีการตรวจสอบที่สามารถมั่นใจ เชื่อถือได้ จะช่วยส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร เพราะพนักงานทุกคนที่ทางเจ้าหน้าที่ HR คัดมานั้น สามารถเชื่อมั่นได้ว่าเป็นบุคคลที่ปราศจากประวัติอาชญากรรม ส่งผลให้พนักงานที่ทำงาน รวมถึงลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็มีทัศนคติที่ดีต่อองค์กร ว่าจะได้รับการบริการจากทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีความปลอดภัย สามารถไว้วางใจได้

3. ป้องกันการทุจริตภายในองค์กร

การที่องค์กรรับพนักงานที่มีประวัติอาชญากรรมเข้ามาร่วมงาน หนึ่งในความเสี่ยงที่ร้ายแรงต่อองค์กรคือการทุจริตภายในองค์กร ตั้งแต่การยักยอกทรัพย์สินขององค์กร ไปจนถึงการนำข้อมูลภายในขององค์กรไปดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้องค์กรเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและรายได้ 

ดังนั้นการตรวจประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนเริ่มงานคือการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดทุจริตในองค์กร เพราะการตรวจประวัติจะทำให้เจ้าหน้าที่ HR สามารถรู้ได้ว่าพนักงานคนใดที่มีประวัติการลักขโมยหรือยักยอกทรัพย์ และสามารถป้องกันการรับพนักงานที่มีความเสี่ยงนั้นมาร่วมงานในองค์กร

4.ป้องกันความเสี่ยงด้านกฎหมายและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

หากองค์กรรับพนักงานที่มีประวัติอาชญากรรมเข้ามาทำงานจนสร้างความเสื่อมเสีย ต่อองค์กรแล้ว นอกจากความเสียหายด้านทรัพย์สิน ร่างกาย หรือชื่อเสียง อาจสร้างความยุ่งยากตามมาในด้านต่าง ๆ เช่น การที่องค์กรต้องรับผิดชอบทางกฎหมายต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าขององค์กร รวมถึงเจ้าหน้าที่ HR ต้องเสียเวลาในการดำเนินการมากยิ่งขึ้น ทำให้องค์กรต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น

ซึ่งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนเริ่มงานจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว เพราะองค์กรจะได้พนักงานที่ไม่เคยมีประวัติการทำผิดกฎหมาย ช่วยทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างอุ่นใจ ลดภาระที่ไม่จำเป็นต่อเจ้าหน้าที่ HR ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5.เป็นฐานข้อมูลให้กับแผนก HR ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

นอกจากการตรวจประวัติอาชญากรรมจะช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้พนักงาน HR สามารถทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ดำเนินการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว จะมีการจัดเก็บประวัติดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลของพนักงานแต่ละคน ที่ช่วยให้แต่ละองค์กรสามารถตรวจสอบได้ว่าพนักงานคนไหนเคยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมให้รวดเร็ว และง่ายมากยิ่งขึ้น

สรุป

จะเห็นได้ว่าการตรวจประวัติอาชญากรรมพนักงานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กรและแผนก HR เนื่องจากเป็นกระบวนการที่จะทำให้องค์กรสามารถได้พนักงานที่มีคุณภาพ ปราศจากประวัติอาชญากรรม สามารถไว้วางใจได้ ซึ่งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนั้นควรเลือกบริการที่มีคุณภาพ ได้ผลการตรวจที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือได้ 

โดยบริการ Appman Criminal Checker คืออันดับหนึ่งในด้านบริการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมสำหรับองค์กร ด้วยวิธีการตรวจประวัติแบบดิจิทัล สามารถดำเนินการได้ผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ต้องเตรียมเอกสาร และสามารถทราบผลรวดเร็วเพียง 48 ชั่วโมง