ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของผู้คนอย่างกว้างขว้าง ทำให้การสร้างความปลอดภัยทางดิจิทัลกลายเป็นประเด็นที่สำคัญ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่ออาชญากรรมในโลกออนไลน์ยังคงเติบโต และสร้างความเดือดให้กับผู้คนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เราก็มีการพัฒนาเทคโนโลยี และมาตรฐานใหม่ๆ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ อย่างการใช้เทคโนโลยี “Liveness Detection” และ eKYC ที่ได้มาตรฐานรับรอง ISO27001 ซึ่งได้กลายเป็นสองประเด็นที่มีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต
Liveness Detection คืออะไร?
หากพูดถึงเทคโนโลยี “Liveness Detection” ใครหลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่ทราบหรือไม่ว่าเทคโนโลยีนี้ เป็นส่วนสำคัญของระบบการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมทริกซ์ (Biometric) ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการตรวจสอบบุคคลว่าเป็นตัวตนจริงหรือปลอม และยังสามารถป้องกันการโจมตีจากการหลอกลวง (Spoofing) และการแอบอ้างด้วยการใช้เทคโนโลยี Deep Fake เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่าง ๆ
“Biometrics คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุตัวตน (Identification) และตรวจพิสูจน์ผู้ใช้ (Verification) โดยใช้เทคนิคการแปรค่าเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล (Personal identity) ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ (Physical) หรือพฤติกรรม (Behavioral Characteristics) มาวิเคราะห์และเปรียบเทียบความแตกต่าง ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
บทบาทของเทคโนโลยี
การเปรียบเทียบภาพใบหน้า ใน eKYC
กระบวนการ eKYC (Electronic Know Your Customer) มีความจำเป็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในโลกที่ธุรกรรมดิจิทัลที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเทคโนโลยีการพิสูจน์ตัวตนจะบังคับให้ผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมถูกตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง และโทคโนโลยีการเปรียบเทียบภาพใบหน้า จึงเป็นส่วนสำคัญของโซลูชั่น eKYC เพราะทำให้แน่ใจว่ากระบวนการตรวจสอบตัวตนไม่เพียงแค่ปลอดภัย แต่ยังมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก
มาตรฐาน ISO27001 คืออะไร?
ISO27001 เป็นส่วนสำคัญของมาตรฐานเทคโนโลยี “Liveness Detection” และ “eKYC” เพราะจัดทำโดยองค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศ (ISO) เพื่อช่วยในการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร โดยเฉพาะการจัดการความปลอดภัยข้อมูลอย่างมืออาชีพ และมีการรับรองที่แสดงว่าองค์กรนั้น ได้ปฏิตามนโยบายการจัดการความปลอดภัยข้อมูล (ISMS) ที่เข้มแข็งและเป็นมาตรฐาน
“ISO27001 จะมุ่งเน้นไปที่การจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล และการพัฒนาขั้นตอนที่เหมาะสม และเฉพาะเจาะจงสำหรับการป้องกัน การตรวจสอบ การแก้ไข และปรับปรุงให้มีความทันสมัยตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO27001 จะช่วยให้องค์กรสามารถคุ้มครองข้อมูลจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต และยังสามารถกู้คืนได้เร็วหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด”
Liveness Detection
เกี่ยวข้องกับ มาตรฐาน ISO27001
ในเทคโนโลยี eKYC อย่างไร?
ทั้งการทำการเปรียบเทียบภาพใบหน้า และ มาตรฐาน ISO27001 เป็นกุญแจสำคัญอย่างมากในกระบวนการ eKYC อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้ร่วมกันของสองปัจจัยนี้ จะช่วยให้เทคโนโลยีเกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับความปลอดภัยระดับสูง และเชื่อถือได้ นอกจากนี้การนำเทคโนโลยี eKYC มาใช้ร่วมกับการทำ Liveness Detection และ ปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO27001 จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจของพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และผู้ใช้งาน รวมถึงยังรองรับหลักการปฏิบัตรตามกฎหมายในประเทศต่าง ๆ อีกด้วย
อนาคตของการยืนยันตัวตนดิจิทัลที่ปลอดภัย
เมื่อการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ยังคงมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ความต้องการตรวจสอบตัวตนที่ปลอดภัยก็จะต้องมีการพัฒนาตามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้เทคโนโลยี Liveness Detection ที่มีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล ISO27001 จะช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ดังนั้น การผสมผสานทั้งเทคโนโลยี และข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยนี้ จะยังคงขับเคลื่อนนวัตกรรมในการยืนยันตัวตนดิจิทัลในอนาคต
การใช้เทคโนโลยีการเปรียบเทียบภาพใบหน้า และ การปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO27001 เป็นสิ่งสำคัญในการให้บริการ eKYC ที่มีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน เพราะมันไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง แต่ยังเช่วยสริมสร้างรากฐานความมั่นคงของแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเร่งขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดจะช่วยให้พื้นที่ของการทำธุรกรรมดิจิทัลเป็นที่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทั้งหมด