ทุกวันนี้อาชญากรแฝงตัวมาหลากหลายรูปแบบ ทำให้สังคมเกิดความกังวลกับภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้บริการไรเดอร์หรือขนส่งสินค้าที่ต้องมีการพูดคุยกับคนแปลกหน้าอย่างที่เคยเห็นกันในข่าวว่าผู้โดยสารถูกคนขับรถแท็กซี่ล่วงละเมิดทางเพศ หรือไรเดอร์ขับรถปาดหน้ารถเก๋งและมีเรื่องทะเลาะวิวาทบนท้องถนน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่าผู้กระทำผิดเหล่านี้เคยมีคดีมาก่อน และเพิ่งออกจากคุกมาก่อเหตุซ้ำ ทำให้สังคมเกิดความคิดในแง่ลบต่อผู้กระทำผิดมากยิ่งขึ้นไปจนถึงขั้นเหมารวมว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ควรได้รับโอกาสในการจ้างงาน และเกิดการตั้งคำถามว่าบริษัทต้นสังกัดได้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนหรือไม่?
จากประเด็นทางสังคมเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดว่าประวัติอาชญากรรมของบุคคลมีผลต่อการจ้างงาน แต่ก็ยังมีโอกาสและทางเลือกสำหรับผู้กระทำความผิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นอยู่บ้างเช่นกัน
การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมมีผลอย่างไรกับองค์กร?
เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย สถาบันทางการเงิน งานขนส่ง และงานดูแลเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงเบื้องต้น เพื่อรับประกันว่าบุคคลนั้นไม่มีประวัติที่อาจเป็นอันตรายต่อองค์กรหรือบุคคลอื่น ๆ เพราะผู้ที่มีประวัติอาชญากรรมอาจมีความเสี่ยงก่อเหตุซ้ำอย่างที่เราเคยเห็นข่าว
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศกำลังผลักดันให้มีการแก้ไขนโยบายเพื่อให้ผู้ที่มีประวัติอาชญากรรมมีโอกาสในการฟื้นฟูและกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งข้อดีของการตรวจประวัติอาชญากรรมจะช่วยให้องค์กรทราบว่าบุคคลนี้เคยมีประวัติเสื่อมเสีย ก่อนพิจารณาจ้างงานโดยดูจากข้อกำหนดดังต่อไปนี้
1. ความรุนแรงของคดีอาชญากรรม
ตัวอย่างเช่น คดีที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงอาจมีผลกระทบกับงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือตำแหน่งที่ต้องการความน่าเชื่อถือ การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจะทำให้นายจ้างทราบประวัติของผู้สมัครว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมใดบ้าง มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และพิจารณาจ้างงานจากประวัตินั้น
2. นโยบายของบริษัท
นอกจากสนับสนุนพนักงานให้เติบโตตามความสามารถและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรแล้ว องค์กรควรมีนโยบายในการรับพนักงานใหม่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดอาชญากรรมซ้ำซ้อน รวมถึงสร้างสังคมการทำงานที่มีความปลอดภัย
สรุปได้ว่าแม้การมีประวัติอาชญากรรมอาจเป็นอุปสรรคในการหางานบางประเภท แต่ก็ยังมีโอกาสและทางเลือกสำหรับผู้ที่มีประวัติดังกล่าวในการพัฒนาอาชีพ ทั้งนี้การมีมาตรการบรรเทาผลกระทบและการมอบโอกาสในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ก็จะสามารถช่วยผู้ที่มีประวัติอาชญากรรมมีโอกาสได้รับการจ้างงานและกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ