ในปัจจุบันการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการหลอกลวงแบบที่ไม่เห็นหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการใช้บัญชีม้าหรือการทำบัญชีปลอมที่ไม่มีตัวตนเจ้าของจริง เพื่อใช้สำหรับฟอกเงินผิดกฎหมาย รวมถึงหลอกลวงให้คนโอนเงินมาให้ ซึ่งบัญชีม้านั้นอันตรายอย่างไร และเราสามารถใช้ eKYC ในการรับมืออย่างไรได้บ้าง ในบทความนี้จะพาทุกคนไปไขคำตอบ
บัญชีม้าคืออะไร
บัญชีม้า คือ บัญชีธนาคารที่เปิดมาด้วยจุดประสงค์เพื่อทำผิดกฎหมาย เช่น การรับ-ส่งเงิน หรือใช้สำหรับการฟอกเงินโดยเฉพาะ โดยบัญชีม้าส่วนใหญ่นั้นผู้ถือครองบัญชีจะไม่ใช่เจ้าของตัวจริง ซึ่งมิจฉาชีพจะใช้วิธีการจ้างวานบุคคลทั่วไปในการเปิดบัญชีแทน หรืออาจใช้วิธีการสวมรอยเป็นเจ้าของบัญชี ด้วยการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชี เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์
ทำไมมาตรการป้องกันบัญชีม้าจึงสำคัญต่อธุรกิจ
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าบัญชีม้า คือหนึ่งในการทำผิดกฎหมายของมิจฉาชีพในปัจจุบัน ซึ่งอันตรายของบัญชีม้ามีตั้งแต่ระดับผลกระทบต่อตัวบุคคล ไปจนถึงระดับประเทศ ดังนี้
1. หลอกลวงผู้คนในรูปแบบคอลเซนเตอร์
ทุกวันนี้มีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่มิจฉาชีพจะมาในรูปแบบของแก๊งคอลเซนเตอร์ที่โทรศัพท์มาหาเหยื่อและหลอกลวงด้วยการอ้างเหตุผลต่าง ๆ ให้เหยื่อหลงเชื่อ และทำการโอนเงินเข้าบัญชีม้าของคนร้าย ส่วนใหญ่แล้วการหลอกลวงแบบคอลเซนเตอร์นี้คนร้ายจะมีฐานกระทำความผิดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อยากต่อการสืบหาตัวตนได้
2. ใช้เป็นบัญชีรับเงินค่าประกันการกู้ยืมเงิน
อีกหนึ่งรูปแบบของการหลอกลวงของมิจฉาชีพด้วยการใช้บัญชีม้าที่พบได้บ่อยในแอปพลิเคชันเงินกู้และแอปพลิเคชันไลน์ คือคนร้ายจะหลอกลวงเหยื่อที่มองหาเงินกู้ ว่าหากผู้กู้ต้องการเงินกู้ จะต้องจ่ายค่าประกันการกู้ยืมเงินก่อน แต่เมื่อเหยื่อโอนเงินไปให้แล้ว คนร้ายก็จะทำการเชิดเงินหนีทันที
3. นำไปใช้ฟอกเงินให้มิจฉาชีพ
หนึ่งในสาเหตุยอดนิยมของการทำบัญชีม้า คือการเปิดบัญชีไว้เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมายของมิจฉาชีพ เพื่อให้รอดจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากเงินที่ฟอกมีจำนวนมากเกินไปอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดความผิดเพี้ยน จนอาจนำไปสู่ปัญหาสภาวะเงินเฟ้อได้
โทษของการเปิดบัญชีม้า
บัญชีม้า ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ได้ระบุว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ทำธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เข้า ให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามบุคคลนึ่ง แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางจำคุกตั้งแต่ 2 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชี จะมีความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน จะได้รับโทษตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การยืนยันตัวตน eKYC วิธีป้องกันปัญหา บัญชีม้า ด้วยเทคโนโลยี
ในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรับมือกับมิจฉาชีพ หนึ่งในนั้นคือการยืนยันตัวตนแบบ eKYC ที่เป็นเทคโนโลยีการยืนยันที่ช่วยรับมือการทำบัญชีม้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
eKYC ย่อมาจาก Electronic Know Your Customer คือระบบยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร โดยจะมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินงาน ช่วยให้ผู้ดำเนินการยืนยันตัวตนสามารถทำจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้เพียงดำเนินการผ่านหน้าจอมือถือเท่านั้น
สำหรับหนึ่งในเทคโนโลยีที่ใช้ในการยืนยันตัวตนแบบ eKYC คือ FACE RECOGNITION & LIVENESS DETECTION ที่เป็นระบบตรวจสอบใบหน้า โดยจะช่วยป้องกันการปลอมแปลงใบหน้า หรือการใช้รูปภาพปลอม ซึ่ง eKYC จะมีรูปแบบการตรวจสอบใบหน้าด้วยเทคโนโลยี Anti-Spoofing Liveness Detection ที่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ใบหน้าของบุคคลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว รวมทั้งยังตรวจจับ การใช้เทคโนโลยี DeepFake ในการสวมรอยใบหน้าเป็นผู้อื่นได้อีกด้วย
สรุป
จะเห็นได้ว่าการทำบัญชีม้านั้น เป็นการหลอกลวงที่อันตรายต่อทั้งผู้คนและสังคมในปัจจุบัน เพราะเป็นการหลอกลวงที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ดังนั้นวิธีการรับมือบัญชีม้าที่มีประสิทธิภาพคือการยืนยันตัวตนแบบ eKYC ที่นอกจากจะทำได้สะดวก เหมาะกับผู้คนในปัจจุบันแล้ว ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันการปลอมแปลงใบหน้าที่แม่นยำรวดเร็วอีกด้วย