fbpx

ธุรกิจรักษาความปลอดภัยกับการตรวจประวัติอาชญากรรม

Highlight

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นคนกลุ่มแรกที่ผู้เข้ารับบริการต้องพบเจอ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องตรวจสอบการเข้า-ออกของผู้เข้ามาใช้บริการ อีกทั้งยังมีหน้าที่ดูแลรักษา ป้องกันทรัพย์สินให้กับองค์กร รวมไปถึงดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในองค์กรด้วยเช่นกัน ดังนั้นการคัดกรองคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควรได้รับการ ตรวจประวัติอาชญากรรม อย่างเข้มงวด

ธุรกิจรักษาความปลอดภัยเป็นธุรกิจที่มีความต้องการกำลังคนสูงมากในตลาดแรงงาน เนื่องจากว่าในทุกองค์กรต้องมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในองค์กร  ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาทำตำแหน่งรักษาความปลอดภัยจะต้องมีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เพราะฉะนั้นการ ตรวจประวัติอาชญากรรม จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อธุรกิจนี้เป็นอย่างยิ่ง 

มาทำความรู้จักกับความสำคัญของอาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นกันเถอะ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นอาชีพใกล้ตัวที่เราสามารถพบเจอได้ในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล บริษัทต่างๆ อีกทั้งยังเป็นบุคคลแรกที่เรามักนึกถึงเมื่อต้องการความช่วยเหลือ แต่บางท่านอาจยังมิทราบหน้าที่ที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดังนั้นมารู้หน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกัน

1. ผู้พิทักษ์ความปลอดภัย

เป็นที่ทราบกันดีว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีหน้าที่หลักๆคือดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังรวมไปถึงดูแล ปกป้องทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง/องค์กรที่เป็นผู้ว่าจ้าง รักษาความสงบตามจุด แหล่ง สถานที่ที่ได้รับมอบหมาย อีกทั้งยังต้องเขียนรายงานสถานการณ์ในช่วงเวลาและสถานที่ที่ได้รับมอบหมายในแต่ละช่วงเวลา

2. ตรวจค้น สแกนคน

อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สามารถพบเห็นได้เป็นประจำอยู่เสมอ คือการตรวจค้นคน ในที่นี้อาจหมายถึงบุคคลทั่วไปที่จะเข้ามารับบริการในพื้นที่องค์กร อีกนัยหนึ่งหมายถึงตรวจค้นพนักงานขององค์กรที่ได้รับมอบหมาย รวมไปถึงคนงานของผู้ที่ว่าจ้าง หรือบุคคลที่ผู้ว่าจ้างมอบหมายให้ได้รับการตรวจค้นตัวทุกกรณี

3. ดูแลผลประโยชน์ให้บริษัท

อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญอีกอย่างที่หลายคนยังไม่ทราบเกี่ยวกับการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคือการดูแลรักษาผลประโยชน์หรือดูแลสาธารณูปโภคให้แก่องค์กร สำรวจตรวจตราการใช้น้ำ ไฟ อุปกรณ์ รวมไปถึงสิ่งของในองค์กร อีกทั้งยังต้องตรวจสอบความสว่าง แสงสว่างของบริเวณจุดอับ จุดเปลี่ยว ให้สว่างและปลอดภัยเสมอ

4. ตรวจตราการเคลื่อนย้ายสิ่งของ

นอกจากการตรวจตราบุคคลเข้า-ออกภายในองค์กรแล้วนั้น การตรวจตราสิ่งของที่จะนำเข้า-ออกภายในองค์กรนั้น ยังเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากการนำสิ่งของเข้า-ออกจากองค์กรนั้นไม่มีใครอาจทราบได้ว่าสิ่งของนั้นคืออะไร ปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงมมีหน้าที่ตรวจสิ่งของ เอกสารการนำของเข้า-ออก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเล็กหรือใหญ่

5. ดูแลด้านงานจราจร

ภาพที่คุ้นตากันอย่างยิ่งกับหน้าที่นี้ของพนักงานรักษาความปลอดภัย กับภาพที่พี่ๆพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยโบกธงให้ข้ามถนน โบกรถให้จอด ดูแลรักษาความปลอดภัยในด้านของการจราจร ทั้งภายในตัวตึกขององค์กรหรือทางเข้า-ออกของตึก ซึ่งเป็นอีกหน้าที่ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกทั้งยังเป็นหน้าที่ที่ต้องมีความรู้ทางด้านการจราจรมากพอสมควรอีกด้วย

อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยกับคดีอาชญากรรม

พนักงานรักษาความปลอดภัยเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดีอาชญากรรม ก่อนที่องค์กรจะรับคนเข้ามารับตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยจะต้องได้รับการตรวจประวัติอาชญากรรมอย่างเข้มงวด เนื่องจากหน้าที่ของพนักงานรักษาความปลอดภัยหลักๆแล้วเกี่ยวกับความปลอดภัย ดังนั้นผู้ที่ทำหน้าที่นี้ต้องมีภูมิหลังที่ใสสะอาด สร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับผู้ที่ใช้บริการ รวมไปถึงนายจ้างเองด้วย

ภูมิหลังที่ต้องห้ามของการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย

การที่จะเข้ามาทำหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัยหรือสมัครเข้ามาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้น มีกฎ ข้อห้ามอยู่มากมายและหลากหลายแตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไปในทิศทางและลักษณะเดียวกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นลักษณะส่วนใหญ่แล้วนั้นจะมีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้

ข้อต้องห้ามเด็ดขาด

พนักงานรักษาความปลอดภัยมีลักษณะต้องห้ามเด็ดขาด กล่าวคือเป็นโทษกระทำผิดทางคดีอาญาที่ไม่สามารถให้อภัย หรือไม่สามารถรับมาทำงานได้อีก คือ เคยต้องโทษในคดีที่เกี่ยวกับทางเพศ เช่น ข่มขืนกระทำชำเรา ทำอนาจาร พรากผู้เยาว์ เป็นต้น ซึ่งคดีที่กล่าวมาข้างต้น เป็นคดีอาญาที่ผู้ที่เคยต้องโทษไม่สามารถเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยได้โดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง ไม่สามารถไว้วางใจผู้กระทำผิดได้ และมีความเสี่ยงที่ผู้กระทำผิดจะกลับไปทำผิดซ้ำ

ข้อต้องห้ามไม่เด็ดขาด สามารถให้อภัยได้

นอกเหนือไปจากคดีที่ไม่สามารถให้อภัยได้แล้ว บางคดีในที่นี้สามารถสมัครเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ โดยมีเงื่อนไข ข้อกำหนด ข้อตกลงแตกต่างกันออกไป ได้แก่ คดีอาญาที่เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย คดีอาญาเกี่ยวกับการลักทรัพย์ รวมไปถึงคดีอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องพ้นโทษในคดีเหล่านี้มากกว่า 3 ปี จึงจะสามารถทำงานในตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของธุรกิจ นายจ้างด้วยเช่นกัน

5 คุณสมบัติของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นายจ้างต้องการ

นอกจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนรับเข้าทำงานแล้วนั้น คุณสมบัติการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นายจ้างต้องพิจารณาในการเลือกพนักงาน โดยนายจ้างอาจมีวิธีในการเลือกสรรพนักงานแตกต่างกันออกไป เรามารู้คุณสมบัติเบื้องต้นของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดี

1. ความรอบคอบ

ความรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญกับทุกอาชีพ ทุกหน้าที่และทุกตำแหน่ง แต่สำหรับพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้น ต้องมีความรอบคอบมากเป็นพิเศษเนื่องจากงานสำคัญและงานหลักของพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้นต้องใช้ความรอบคอบในการตรวจตราคน สิ่งของ และสถานที่ต่างๆตามที่ได้รับมอบหมาย

2. ทักษะการสื่อสาร

การสื่อสารถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำงานบริการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้การสื่อสารในการทำงานอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นต้องมีทักษะการสื่อสารที่สามารถสื่อสารให้บุคคลอื่นเข้าใจได้ง่าย สื่อสารได้ถูกต้อง เพื่อผู้รับสารจะได้เข้าใจความหมายที่ถูกต้อง ได้รับข้อมูลครบถ้วน

3. การทำงานร่วมกับผู้อื่น

พนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นงานที่ต้องพบเจอผู้คนอยู่เสมอ ทั้งการพบบุคคลภายนอก และการพบเจอเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำงานกับผู้อื่นได้ดี การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เข้ากับทุกคนได้เพื่อความสะดวกและการทำงานที่ง่ายขึ้น

4. ความซื่อสัตย์

พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งสิ่งคือความซื่อสัตย์ เนื่องจากตำแหน่งนี้จะได้ความไว้วางใจจากนายจ้างมากที่สุด ในการดูแลทรัพย์สินและสิ่งของขององค์กร ในบางครั้งอาจได้รับมอบหมายให้ดูแลของมีค่าที่มีมูลค่าสูง ดังนั้นความซื่อสัตย์ถือเป็นคุณสมบัติหลักสำคัญอย่างยิ่งที่พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องมี

5. ความสามารถในการตอบสนองเร่งด่วนหรือการมีสติ

พนักงานรักษาความปลอดภัยต้องใช้สติในการทำงานเป็นอย่างมาก อาทิเช่นการระงับเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น ไหวพริบที่จะพิจารณาเหตุการณ์ อีกทั้งยังต้องมีสติในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคุณสมบัติที่สำคัญอีกประการของการเป็นพนักงานรักษาความปลอดที่นายจ้างต้องการคือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีสติ ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดี

สรุป

พนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สำคัญสำหรับทุกองค์กร ทั้งด้านความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงทางด้านการบริการที่ต้องการกำลังจากบุคคลากรตำแหน่งนี้ ดังนั้นการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมในธุรกิจรักษาความปลอดภัยจึงมีความจำเป็นและต้องใช้การตรวจสอบที่ได้รับผลรวดเร็ว เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจแก่นายจ้าง คุณสมบัติของการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *