ทุกวันนี้การตรวจประวัติอาชญากรรมได้เข้ามามีบทบาทต่อการคัดเลือกพนักงานขององค์กร เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดพฤติกรรมไม่เหมาะสมในองค์กร แต่รู้หรือไม่ว่าจุดเริ่มต้นของการตรวจประวัติอาชญากรรมนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน ที่ได้ทำให้องตค์กรต้องทำหน้าที่ในการตรวจประวัติพนักงานก่อนเข้าทำงาน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนย้อนไปถึงประวัติศาสตร์การตรวจประวัติอาชญากรรมว่ามีที่มีอย่างไรบ้าง และอะไรคือจุดเปลี่ยนสำคัญ
จุดเริ่มต้นของการตรวจประวัติพนักงาน
จุดเริ่มต้นของการตรวจประวัติพนักงานต้องย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1908 เมื่อเกิดคดีที่เด็กฝึกคดีงานทำการกลั่นแกล้งกันจนทำให้เพื่อนร่วมงานเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้ศาลพิพากษาให้นายจ้างต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิต เนื่องจากนายจ้างได้รู้เห็นถึงการกระทำดังกล่าวของพนักงานแต่ยังคงจ้างตัวผู้กระทำผิดให้ทำงานต่อไป จนนำมาสู่กฎหมายที่เกี่ยวกับการจ้างงานโดยประมาท
จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ. 1911 – 1933 ได้มีการขยายกฎหมายการจ้างงานโดยประมาท โดยมีการรวมกรณีของการจ้างบุคคลที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทั้งต่อลูกค้าและพนักงานด้วยกันเอง หนึ่งในคดีที่โด่งดังและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดในปี 1951 ที่พนักงานส่งของได้ทำร้ายร่างกายแม่บ้าน จากกรณีดังกล่าวศาลได้พิจารณาว่านายจ้างจะต้องรับผิดชอบในการเลือกพนักงานที่เหมาะสมมาทำงานที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงไม่มีประวัติไม่เหมาะสมที่อาจส่งผลต่อการทำงาน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นให้นายจ้างต้องมีการตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนรับคนเข้าทำงาน
2 เหตุการณ์จุดเปลี่ยนสำคัญการตรวจประวัติอาชญากรรมในปัจจุบัน
สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรให้ความสำคัญต่อการตรวจประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนเข้าทำงาน มาจาก 2 เหตุการณ์ใหญ่ระดับโลก ได้แก่ เหตุการณ์ 9/11 การก่อวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ในปี 2001 และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2020
เหตุการณ์ 9/11 คือการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เมื่อผู้ก่อการร้ายได้ทำงานเข้ายึดเครื่องบิน ก่อนนำเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ จนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก ที่เกิดจากความหละหลวมในการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน ความสูญเสียจากเหตุการณ์นี้ได้ทำให้หลายองค์กรเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญในการคัดกรองพนักงานก่อนเข้ามาทำงาน เพื่อสร้างความปลอดภัยขององค์กรและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
เหตุการณ์ต่อมาคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปี 2020 ซึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนโดยสิ้นเชิง องค์กรได้มีการจ้างงานแบบออนไลน์ที่นายจ้างและลูกจ้างสามารถทำงานด้วยกันโดยแทบไม่ต้องเจอหน้ากัน เช่น บริการขับรถส่งของเดลิเวอรี่ตามแอพพลิเคชันต่าง ๆ หรือการทำงานแบบ Work From Home เป็นต้น ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าการรับสมัครงานแบบเดิม รวมถึงจำนวนพนักงานที่มีจำนวนมาก ส่งผลให้หลายองค์กรต้องหันมาใช้บริการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่มีความทันสมัยและได้ข้อมูลที่รวดเร็ว
การตรวจประวัติพนักงานในปัจจุบันดูอะไรบ้าง?
ในปัจจุบันสังคมเต็มไปด้วยการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการก่ออาชญากรรมในสถานที่ทำงานที่ยังคงมีขึ้นมาโดยตลอด ที่ล้วนแต่ส่งเป็นเสียต่อองค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญในการตรวจประวัติพนักงาน มีดังนี้
1.ตรวจประวัติอาชญากรม เป็นการตรวจประวัติคดีความของผู้สมัครงาน ว่าเคยมีประวัติการก่ออาชญากรรมจนถูกดำเนินคดีหรือไม่ เช่น คดีการทำร้ายร่างกาย การทำอนาจาร รวมถึงการค้าสิ่งผิดกฎหมาย เป็นต้น
2.ตรวจประวัติการทำงาน คือการตรวจเช็กข้อมูลความน่าเชื่อถือในการทำงานของผู้สมัครงานว่ามีประวัติการทำงานตรงตามที่ระบุไว้บนเรซูเม่หรือไม่ และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามที่องค์กรต้องการมากน้อยแค่ไหน
3.ตรวจประวัติการล้มละลาย คือการตรวจประวัติทางการเงินของผู้สมัครงาน เพื่อลดภาระในการจ่ายเงินเดือน เนื่องจากการจ่ายเงินเดือนให้พนักงานที่ล้มละลาย องค์กรจะต้องหักจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เพื่อนำมาจ่ายคืนให้เจ้าหนี้
4.ตรวจสอบข่าวเสียบนโซเชียลมีเดีย คือการตรวจประวัติของผู้สมัครงานบนโซเชียลมีเดียว่าเคยมีข่าวที่เสื่อมเสียหรือมีประวัติการกระทำที่ไม่เหมาะสมบนอินเทอร์เนต แต่ไม่ถูกดำเนินคดีความ เพื่อประกอบการตัดสินใจของแผนก HR
สรุป
จะเห็นได้ว่าการตรวจประวัติพนักงานคือสิ่งสำคัญต่อองค์กรไม่ว่าจะตั้งแต่อดีตหรือปัจจุบัน เพราะเป็นกระบวนการที่จะช่วยให้องค์กรได้พนักงานที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดความรุนแรงจนทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยบริการ Appman Criminal Checker คือบริการตรวจประวัติอาชญากรรมผ่านระบบดิจิทัล ที่ช่วยพลิกโฉมการทำงานของแผนก HR ด้วยการทราบผลประวัติอาชญากรรมและคดีความ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ให้องค์กรได้พนักงานที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการมากขึ้น