ทุกวันนี้สังคมส่วนใหญ่ได้เริ่มเปิดกว้างในเรื่องของเพศสภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะในสังคมการทำงานที่หลายองค์กรยุคใหม่ที่เริ่มมีการรับพนักงานที่เป็น LQBTQ+ มาร่วมงาน รวมถึงมีพื้นที่ให้พนักงานเหล่านี้ได้แสดงออกถึงเพศสภาพของตัวเอง เนื่องในเดือน Pride Month นี้ เราจะมาแนะนำถึงการพัฒนาองค์กรยุคใหม่ ในยุคที่โลกเปิดกว้างเรื่องเพศสภาพ สามารถติดตามอ่านได้ที่บทความนี้เลย
ความหลากหลายในองค์กรคืออะไร?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านได้เกิดกระแสที่เรียกว่า ‘Workforce Diversity’ หรือ ‘ความหลากหลายในองค์กร’ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายองค์กรเริ่มหันมาให้ความสำคัญ เพราะเป็นการสร้างองค์กรที่เปิดรับความหลากหลายของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น ชาติ ศาสนา รวมถึงสถานะทางเพศ ที่ปัจจุบันหลายประเทศได้เปิดรับความหลากหลายทางเพศมากยิ่งขึ้น
โดยหลายองค์กรได้มีการเปิดให้พนักงานที่เป็น LGBTQ สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศขององค์กรมีความน่าทำงานมากยิ่งขึ้น พนักงานมีความเครียด ความกดดันน้อยลง และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและหัวหน้าให้เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น
รูปแบบการพัฒนาองค์กรในยุคที่เปิดรับความหลากหลาย
1. ให้พนักงานสามารถระบุเพศได้มากกว่า ชาย/หญิง
ในตอนที่พนักงานเข้าสมัครงาน ในใบสมัครงานจะมีให้เลือกเพศชาย-หญิง ซึ่งองค์กรรุ่นใหม่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเปิดรับความหลากหลายทางเพศด้วยการเพิ่มตัวเลือกที่มากกว่า ชาย-หญิง เพื่อให้พนักงานสามารถแสดงออกเพศสภาพของตัวเองได้มากขึ้น รวมทั้งให้องค์กรนำข้อมูลที่ได้จากพนักงานไปวิเคราะห์ และสร้างสรรค์สวัสดิการที่รองรับต่อพนักงานที่มีเพศสภาพที่หลากหลาย และจัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับพนักงานในเพศสภาพต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างสวัสดิการที่รองรับพนักงานที่เป็น LGBTQ+
สวัสดิการเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมงานกับองค์กร สำหรับองค์กรยุคใหม่ที่เปิดรับทางความหลากหลาย การสร้างสวัสดิการที่รองรับต่อคนทุกเพศคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ องค์กรอาจเพิ่มสวัสดิการสำหรับ LGBTQ+ ด้วยการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการแปลงเพศ หรือการช่วยเหลือเรื่องสมรส เป็นต้น
3. มีพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงความสามารถอย่างเท่าเทียม
นอกจากสวัสดิการที่รองรับความหลากหลายแล้ว การที่จะพัฒนาองค์กรให้เหมาะกับความหลากหลายทางเพศ ควรจะต้องมีพื้นที่ให้พนักงานทุกเพศสามารถแสดงผลงานและความสามารถของตัวเองออกมาอย่างเท่าเทียมกัน เช่น การเปิดพื้นที่ให้พนักงาน LQBTQ+ ได้ออกไอเดียสร้างสรรค์ของตัวเอง เพื่อให้พนักงานเกิดความรู้สึกเท่าเทียม ไม่ถูกด้อยค่าเพียงเพราะเรื่องเพศสภาพเท่านั้น
4. สร้างนโยบายที่ต่อต้านการเหยียดเพศ
ปัญหาที่ชาว LGBTQ+ มักเผชิญคือการถูกเหยียด ถูกคุกคามจากเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้วยกัน ไปจนถึงหัวหน้างาน จนทำให้เกิดปัญหาความเครียด สร้างบรรยากาศองค์กรที่ไม่น่าทำงาน ดังนั้นสิ่งที่องค์กรยุคใหม่ควรทำคือการสร้างนโยบายที่ต่อต้านพฤติกรรมที่เหยียดเพศ เช่น การสร้างบทลงโทษต่อพนักงานที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และส่งเสริมให้มีการปฏิบัติต่อคนทุกเพศอย่างเท่าเทียม โดยเป็นธรรมเนียมขององค์กร
สรุป
จะเห็นได้ว่าการพัฒนาองค์กรเพื่อรองรับความหลากหลายทางเพศ คือสิ่งที่องค์กรยุคใหม่ควรปรับใช้ เพื่อสร้างองค์กรที่เต็มไปด้วยคนมีความสามารถ และเปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก เพราะคนที่เป็น LGBTQ+ จำนวนมากเป็นคนที่มีความสามารถไม่ต่างจากพนักงานชาย/หญิง ยิ่งหากองค์กรไหนที่เปิดกว้างความหลากหลาย จะช่วยเพิ่มภาพลักษณ์องค์กรให้มีความน่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นจากลูกค้า และคนที่ต้องการร่วมงานมากยิ่งขึ้น
นอกจากการเปิดรับความหลากหลายแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกองค์กรขาดไม่ได้คือการตรวจประวัติอาชญากรรมพนักงาน เพื่อเป็นการคัดกรองพนักงานที่มีความสุ่มเสี่ยงสร้างความเสียหายต่อองค์กร ขอแนะนำ Appman Background Checker การตรวจประวัติพนักงานในรูปแบบออนไลน์ 100% ทราบผลเร็ว เช็กละเอียด และถูกต้องตามกฎหมาย